เที่ยวทั่วไทยไปกับพี่หนุ่ม’สุทน รุ่งธัญรัตน์ พาไปรู้จักอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพเมืองโบราณเมื่อ 1,700 ปีก่อน ท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้

 

เรื่องและภาพโดย :  หนุ่มสุทน รุ่งธัญรัตน์ (ผู้ดำเนินรายการคลื่นข่าว FM 100.5)

โพสต์โดย : ราม อินทรา (สำนักข่าวเอเชียมอร์นิ่ง)

 

 

เที่ยวทั่วไทยไปกับพี่หนุ่ม’สุทน รุ่งธัญรัตน์ พาไปรู้จักอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพเมืองโบราณเมื่อ 1,700 ปีก่อน ท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้

 



วันนี้พามาเยี่ยมชมอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อเดินทางมาถึงอุทยานแล้ว ต้องถือปฏิบัติตามระเบียบของอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ โดยเข้าชมตามจุดต่าง ๆ เริ่มต้นที่

 


จุดที่ 1 อาคารศูนย์ข้อมูลประวัติศาสตร์ศรีเทพ ภายในอาคารจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่ายและสิ่งของที่ขุดพบเช่นศิลาแลง เทวรูปสมัยขอมและองค์พระพุทธรูปมหายานค้นพบในบริเวณพื้นที่เมืองโบราณหรือเมืองศรีเทพในเนื้อที่ดิน 2,800 ไร่ ส่วนอายุของเมืองโบราณแห่งนี้ประมาณ 1,700 ปี ผู้ที่พบเห็นเมืองโบราณขอมคือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ พบในปี พ.ศ. 2447 ครั้งเสด็จตามลำน้ำป่าสักเพื่อเข้ามณฑลเพชรบูรณ์หรือเมืองเพชรบูรณ์

 


ตามประวัติกล่าวว่ามณฑลเพชรบูรณ์เป็นป่าไม้หนาทึบมากด้วยไข้ป่าหรือไข้มาเลเลีย สมเด็จพระเจ้าบรมเธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้สำรวจในพื้นที่ลุ่มน้ำป่าสักจึงพบเมืองโบราณขนาดใหญ่แล้วก็ถ่ายภาพบันทึกไว้ซึ่งยังคงเก็บรักษาไว้อย่างดีจนถึงทุกวันนี้ ต่อมาก็พบว่าเมืองนี้ชื่อเมืองศรีเทพในหนังสือตราสานของเมืองศรีเทพ

 




 

จุดที่ 2 นั่งรถรางชมภายในพื้นที่ดิน 2,800 ไร่ แบ่งเป็น 2 ส่วนคือเมืองชั้นนอกและเมืองชั้นในโดยเริ่มต้นที่

 


จุดแรกเจ้าหน้าที่พาแวะให้ชมคือหลุมฝังศพตามความเชื่อเมื่อ 1,700 ปี มีโครงกระดูกมนุษย์  และช้าง 

 


 





เสร็จแล้วมา จุดที่ 2 องค์ปรางค์สองพี่น้องหรือถ้าตามหลักพระพุทธศาสนาจะเรียกพระปรางค์สองพี่น้อง องค์ปรางค์น้องมีทับนารายณ์ดั้งเดิมยังคงสวยงามมาก ๆ สำหรับปรางค์องค์พี่เมืองชั้นในสุดสันนิษฐานว่าเป็นเทวลัยใช้ประกอบพิธีทางศาสนาพราหมณ์-ฮินดูและพุทธมหายานถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มีบ่อน้ำเล็ก ๆ ใช้ประกอบในพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์เมื่อครั้งกระนู้น

 










ถัดไปคือคลังในหรือองค์เจดีย์ใหญ่ส่วนด้านล่างขององค์เจดีย์มีรูปปั้นคนแคระล้อมรอบยกตัวเจดีย์ขึ้นไว้เป็นความเชื่อของคนสมัยนั้นว่าคนแคระนี้มีทางสวรรค์อันวิเศษคล้าย ๆ ผู้มีพลัง

 






สำหรับพื้นดินชั้นนอกชาวเมืองน่าจะประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ปลูกผักผลไม้เพราะมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เพื่ออุปโภคบริโภคหรือใช้ด้านเกษตรนี่คือด้านศึกษาเรื่องราวภายในและด้านนอกเมืองศรีเทพ

 


 

ส่วนจุดสุดท้ายพลาดโอกาสไม่ได้คือจุดที่ 3 ต้องแวะคือ “ศาลเจ้าพ่อศรีเทพ” เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเมืองโบราณศรีเทพองค์เจ้าพ่อศรีเทพสันนิษฐานกันเองว่าชาวบ้านที่เข้ามาพบร่องรอยเมืองโบราณแห่งนี้แล้วพบเทวรูปแกะสลักด้วยหินทรายจึงจัดสร้างศาลไม้เล็ก ๆ เพื่อประดิษฐานแล้วเรียก “ศาลเจ้าพ่อศรีเทพ” ดูลักษณะแล้วน่าจะเป็นองค์เทพหญิงต่อมาองค์ที่พบเจอก็หายไปส่วนองค์เจ้าพ่อศรีเทพองค์ปัจจุบันได้สร้างขึ้นมาใหม่แต่คงศักดิ์สิทธิ์เช่นเดิมและทุกปีของเดือนสามจะมีพิธีบวงสรวงองค์เจ้าพ่อศรีเทพชาวประชามาร่วมงานกันมากครับ

 





ใครสนใจท่องเที่ยวโบราณสถานเมืองเก่าเมื่อครั้งขอมเรืองอำนาจใกล้ ๆ ลุ่มน้ำป่าสักอำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ไปเที่ยวเพื่อศึกษาประวัติความเป็นมากันได้นะครับหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก-เพชรบูรณ์ โทรศัพท์ 055-252742 ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ขอขอบคุณ ผอ.ญาติกา แก้วบริสุทธิ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก ที่ให้การต้อนรับคณะสื่อมวลชนชมรมนักข่าวท่องเที่ยวออนไลน์ เดินทางไปเก็บข้อมูลเรื่องท่องเที่ยวมาประชาสัมพันธ์ให้ผู้สนใจเดินทางไปเที่ยวกันเองนะจ๊ะ “เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป…กับ…ผมหนุ่ม-สุทน” ขอบคุณและสวัสดีครับ

 

 

แฟนเพจเฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/

 

#ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว 100.5 fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น.

 

#ติดต่อวิทยากรด้านการท่องเที่ยวได้ที่ได้ที่แฟนเพจเฟสบุ๊ค

 

#เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel #Tourism local life ชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวไทยยั่งยืน

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ก้องหล้า ภูวดลอานนท์” บิ๊กบอส ภูฟ้า เอ็นเตอร์ไพรส์ เปิดตัวสถานบำบัดและพักฟื้นผู้ติดยาเสพติดภาคเอกชนสาขาสอง “สวรรค์-อินเตอร์เนชั่นแนล หัวหิน” ช่วยสังคม ”คืนคนรัก..กลับคืนสู่ครอบครัว”

ททท. จับมือพันธมิตรชวนเที่ยวปังพลังมู New Destination of Mutelu in Bangkok @ Phenix

แถลงการณ์ชี้แจงอย่างเป็นทางการจากบริษัท Myanmar Yatai International Holding Group Company Limited: